Bloggers beware: you can get sued from using pics on your block – my story
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ นักเขียนนิยายโรแมนติกชื่อดังนามว่าโรนี่ โลเรน (Roni Loren) ถูกดำเนินคดีจากการใช้รูปภาพบนบล็อกของเจ้าหล่อนโดยไม่รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันนี้ การเขียนเรื่องราวต่างๆบนบล็อกส่วนตัว หรือแชร์ข้อความ แชร์รูปภาพ ถือเป็นเรื่องที่ปกติและใกล้ตัวมาก (ก.ไก่ล้านตัว) แต่ระยะหลังมานี้ รัฐบาลมีการกวดขันเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญากันมากขึ้น เด็กออส.com จึงอยากหยิบยกเรื่องราวในครั้งนี้มานำเสนอ เพราะเราคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับใครอีกหลายๆคนเลยค่ะ
โรนี่เขียนเล่าเรื่องราวครั้งนี้ในบล็อคของเธอว่า…
ฉันก็เป็นเหมือนพวกคุณทุกคนที่เขียนบล็อคในเวลาว่าง โดยศึกษาวิธีการใช้จากบล็อคเกอร์คนอื่นๆ และหนึ่งสิ่งที่ฉันรู้ก็คือ บล็อคที่มีรูปภาพ มักจะดึงดูดและดูดีกว่าบล็อคที่มีแต่ตัวหนังสือเสมอ ฉันก็เลยลองดูว่าคนอื่นเค้าหารูปยังไงกัน ปรากฎว่าทุกคนก็หารูปมาจาก Google Images แล้วเอามาใส่ในเว็บตัวเอง บางคนก็ใส่เครดิต บางคนก็ไม่ใส่ และเมื่อฉันถามพวกเค้าว่า ใช้รูปแบบนี้โอเคเหรอ ก็ดูเหมือนทุกคนจะไม่เดือนร้อนอะไร แล้วคิดว่ามันก็ยังชอบธรรมตามกฎหมาย (Fair Use standards)
ในทุกๆเว็บจะมี disclaimers (เป็นข้อความการปฏิเสธการรับผิดชอบด้านกฎหมาย) และฉันก็ได้เข้าไปอ่านดู ยกตัวอย่าง บล็อคเกอร์รายใหญ่คนนึง ในdisclaimers ระบุว่า
“THIS BLOG claims no credit for any images posted on this site unless otherwise noted. Images on this blog are copyright to its respectful owners. If there is an image appearing on this blog that belongs to you and do not wish for it appear on this site, please E-mail with a link to said image and it will be promptly removed.“
แปลสั้นๆคือ
“ทางบล็อคขอปฏิเสธการเป็นเจ้าของรูปภาพทุกภาพ ณ ที่นี้ หากมิได้แจ้งโดยเจาะจง ฉะนั้น ภาพทุกภาพบนเว็บนี้ เป็นสิทธิ์ขาดของเจ้าของภาพเท่านั้น ถ้าคุณเป็นเจ้าของภาพใดภาพหนึ่งและไม่ต้องการให้ทางเราใช้ภาพของคุณ โปรดส่งอีเมล์หาเราและเราจะทำการลบรูปนั้นๆทันที”
ฉันอ่านdisclaimerของเว็บแล้วเว็บเล่า ทุกๆที่ก็มีเนื้อหาคล้ายกัน (ลองดูของ Tumblr ได้ คล้ายกันจริงๆนะ) ฉันเลยคิดว่า มันคงโอเคมั๊ง ถ้าจะทำตามๆคนอื่น ไม่งั้น เว็บใหญ่ๆที่ใช้รูปภาพในการหากินเป็นหลักอย่าง Pinterest หรือ Tumblr คงไม่ใช้ disclaimer แบบนี้ หลังจากนั้น ฉันก็เลยเริ่มใช้รูปจาก Google Images และใส่disclaimerแบบนั้น ตามคนอื่นๆ
ในโพสต์หนึ่ง ฉันก็ใช้รูปจาก Google Image เหมือนทุกที แต่ที่ต่างไปคือ….
สัปดาห์ต่อมา ช่างภาพที่ถ่ายรูปนั้นอีเมล์มาหาฉันเพื่อให้เอารูปออก หลังจากที่อ่านเสร็จ ฉันลบรูปนั้นทันที และรู้สึกแย่มากที่ใช้รูปลิขสิทธิ์ กระนั้นก็ตาม ช่างภาพคนนั้นไม่ได้หยุดแค่นี้ เขาขอค่าเสียหายจากการที่ฉันใช้รูปของเขา ในจำนวนที่เยอะมากก (ที่ฉันจ่ายไม่ไหว) ด้วยความที่เรื่องมันยืดเยื้อและกดดันมาก ฉันต้องจ้างทนาย และสุดท้ายต้องจ่ายเงินค่ารูปให้กับช่างภาพคนนั้นไปจริงๆ รูปที่แทบไม่ได้จำเป็นกับเว็บของฉันเลยด้วยซ้ำ!
สิ่งที่ฉันอยากจะพูดคือ เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น มันไม่สนุกเลย และสิ่งที่แย่กว่าคือตอนนั้น ฉันไม่รู้ตัวว่ากำลังทำผิดอยู่ด้วยซ้ำ เพราะฉันก็ทำเหมือนๆกับทุกคน มาตอนนี้ฉันรู้แล้ว ว่าการใช้รูปของคนอื่นเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และสามารถถูกฟ้องได้ ฉันจึงอยากแชร์ประสบการณ์นี้ให้เพื่อนบนโลกออนไลน์ของฉัน เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องเสียเวลา และเสียเงินจำนวนมากเหมือนกันฉัน
นี่คือสิ่งที่ฉันเรียนรู้จากเรื่องครั้งนี้
คุณยังสามารถถูกดำเนินคดีได้ แม้ว่าคุณจะ……..
- ลงลิงค์ไปยังเว็บต้นทาง และลงชื่อคนถ่ายภาพนั้นๆแล้ว
- ไม่ใช้รูปขนาดFull-Size (รูปไซส์ Thumnail เท่านั้นถึงจะโอเค)
- ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
- ลงในเว็บที่ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ และคุณไม่ได้ประโยชน์ด้านการเงินจากเว็บนั้นๆ
- ไม่ได้บอกชาวโลกว่าเป็นรูปของคุณ
- ใส่รูปในส่วนของcomment แทนการใส่ในโพสต์หลัก
- ไม่ใด้เอารูปมาผนวกเข้ากับเซิร์ฟเวอร์ตัวเอง (embedded picture)
- ใส่ Disclaimer ในเว็บแล้ว
- ลบรูปทันทีที่มีคนส่ง DCMA notice (คำเตือนให้ลบรูปที่ละเมิดลิขสิทธิ์) มาหาคุณ
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ไม่สามารถป้องกันคุณจากการถูกปรับข้อหาละเมิดลิทสิทธิ์ได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะได้รับคำอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของภาพ หรือ คุณใช้ภาพจากโดเมนสาธารณะ แหล่งภาพสาธารณะ เช่น creative commons เป็นต้น (เดี๋ยวlist แหล่งรูปถูกกฎหมายจะตามมาใน ภัยเงียบของเหล่าบล็อคเกอร์ออนไลน์ ตอนที่ 2 นะจ๊ะ )
ฉันก็ไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองจะต้องมาเรียนรู้เรื่องนี้แบบเจ็บปวด(กระเป๋าสตางต์)เยี่ยงนี้ ในตอนต่อไป ฉันจะเล่าให้ฟังว่าพวกคุณจะป้องกันตัวเองจากการถูกฟ้องได้อย่างไรบ้าง ในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้ส่ง DCMA ไปหาเว็บที่เอาหนังสือของฉันไปเผยแพร่ออนไลน์แล้วเช่นกัน (5555+) แต่เพราะการเขียนเป็นอาชีพของฉัน ภาพบนอินเตอร์เน็ตอาจเป็นทรัพย์สินและเป็นอาชีพของช่างภาพหลายๆคน ดังนั้น การละเมิดลิขสิทธิ์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำจริงๆนั่นแหละ
