เทศกาลอีสเตอร์ในเมลเบิร์น

Easter Days In Melbourne

สวีดัด สวัสดีคร้าบบบบ ท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้กระผมจะนำทุกท่านเข้าสู่เทศกาลที่สำคัญของชาวคริสเตียนกันครัช ซึ่งเทศกาลนี้จะจัดขึ้นเพียงปีละ 1 ครั้ง และเทศกาลนั้นก็คือ “อีสเตอร์”[Easter] เป็นการฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์จากความตาย และยังเป็นวันที่สำคัญที่สุดของศาสนาคริสต์จนได้รับการขนานนามว่า “เป็นวันเริ่มต้นใหม่ของชีวิต” โดยแต่ละปีจะมีการกำหนดไว้ว่าจะ ฉลองวันอีสเตอร์ในวันอาทิตย์แรกหลังจากพระจันทร์เต็มดวงโดยจะนับเวลาหลังจากเที่ยงคืนของฤดูใบไม้ผลิ[Spring] ซึ่งจะอยู่ในช่วงหลังวันที่ 21 มีนาคมถึง 25 เมษายนของทุกๆปี  ชาวคริสเตียนนิกายออร์โธดอกซ์ในประเทศกรีซทั้งหลายจะคำนวณวันอีสเตอร์จากการใช้ปฏิทินจูเลียน  แต่สำหรับชาวคริสเตียนในประเทศอื่นๆ วันอีสเตอร์ขึ้นอยู่กับการประมาณการของคณะโบสถ์ในช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนในเดือนมีนาคม ในปี 325 สภาของประเทศไนซีอาได้ตัดสินว่าวันอีสเตอร์จะตรงกับวันอาทิตย์แรกหลังพระจันทร์เต็มดวงหรือหลังวันที่เวลากลางวันและกลางคืนเท่ากันในเดือนมีนาคม เทศกาลอีสเตอร์ถือเป็นเทศกาลที่สำคัญเพราะชาวเมลเบิร์นส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ โดยในปี  2018 วันอีสเตอร์จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงวันอีสเตอร์ กระผมจะนำท่านไปรู้จักกับวันศุกร์ประเสริฐ หรือวันที่ชาวคริสเตียนเรียกว่า  Good Friday กันก่อน

วันศุกร์ประเสริฐ[Good Friday]

เป็นวันที่พระเยซูและพระอัครธรรมทูต เดินทางไปยังเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อประกอบพิธี  Passover ซึ่งเป็นเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว โดยเป็นหนึ่งที่ชาวยิวจะรำลึกถึงการที่ชาวฮิบรูได้รับการปลดปล่อยจากความเป็นทาส หลังจากอาหารค่ำในพิธี  Passover พระเยซูทรงถูกจับกุมและถูกนำไปตรึงบนไม้กางเขน ซึ่งอาหารมื้อนั้นถือเป็นมื้อสุดท้ายหรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า “The last supper”  [ปัจจุบัน สามารถเข้าชมภาพวาด The Last Supper ของ Leonardo Da Vinci ได้ที่วัด Santa Maria delle Grazia ในกรุง Milan ประเทศอิตาลี ]หลังจากที่พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน พระเยซูได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน

Saturday before Easter Sunday หรือ Holy Saturday

เรียกอีกชื่อว่า “วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์” โดยวันนี้จะเป็นวันที่ร่างกายของพระเยซูถูกเก็บใส่โลง และเก็บร่างอันไร้ลมหายใจเอาไว้ภายใต้อุโมงค์ ถ้าย้อนเวลากลับไปในวันนั้น คงเป็นวันที่ชาวคริสเตียนเสียใจเป็นที่สุด โดยในวันนี้ชาวคริสต์จะเริ่มจัดเตรียมการเฉลิมฉลองมี่กำลังจะเกิดขึ้น และโบสถ์บางแห่งจะมีการจัดงานการสวดมนตร์พร้อมทั้งจุดเทียนสีขาว เพื่อเป็นการจุดไล่ความมืดออกไป และหลังจากมีการสวดมนตร์แล้วบางนิกายจะมีการทำพิธีศีลล้างบาปอีกด้วย

หลังจากที่เราได้รู้จักกับวันศุกร์ประเสริฐและวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว กระผมขอพาทุกท่านเข้าสู่วันอีสเตอร์ โดยเราจะเรียกวันอีสเตอร์ว่าวัน Easter Sunday

Easter Sunday

ทำไมถึงต้องเรียกว่า Easter Sunday เพราะว่า วันอีสเตอร์เป็นวันที่พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์ชีพ หลังจากที่พระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขนและสิ้นพระชนม์ หลังจากนั้น  2 วัน ก็ได้กำเนิดวันเฉลิมฉลองการฟื้นคืนชีพของพระเยซู หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า “Easter Day’s” และวันสุดท้ายสำหรับเทศกาลอีสเตอร์นั้นก็คือ “Easter Monday” โดยวันนี้สำหรับชาวเมลเบิร์นและชาวออสเตรเลียทุกท่านยังถือว่าเป็นวันหยุดอยู่นะครับ และหลายๆคนยังถือว่าวันนี้เป็นวันฉลองการฟื้นคืนชีพ เช่นเดียวกับวัน “Easter Sunday”

วันอีสเตอร์ชาวเมลเบิร์นเค้าทำอะไรกันน๊า??? 

ส่วนใหญ่วันอีสเตอร์ในเมลเบิร์น ชาวคริสเตียนทั้งหลายในช่วงเช้าจะต้องมีการเข้าโบสถ์เพื่อไปสวดมนตร์ขอพรจากพระองค์ และหลังจากนั้นจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว โดยกิจกรรมที่ฮิตในหมู่เด็กๆ ก็คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก แท่น แทน แท๊นนนนน!!!!

“การหาไข่อีสเตอร์” [แล้ว??? ทำไมต้องไข่อีสเตอร์ เพราะไข่ถือเป็นการเริ่มต้นการเกิดใหม่ของชีวิต เฉกเช่นเดียวกับการที่พระองค์ทรงฟื้นคืนชีพ] โดยไข่อีสเตอร์นั้นในสมัยก่อนจำไข่ไก่หรือไข่เป็ดมาจุ่มสีเพื่อความสวยงาม แต่ในสมัยปัจจุบันจะมีการวาดลวดลายบนไข่เพิ่มขึ้น และนอกจากไข่จริงๆแล้ว ยังมีช็อกโกแลตรูปไข่ที่ห่อด้วยกระดาษฟรอยสีสันสวยงาม หรือจะเป็นรูปไข่พลาสติกที่ข้างในซ่อนของเล่น, ลูกอม หรือช็อกโกแลตเอาไว้ โดยกิจกรรมดังกล่าวบางครอบครัวจะทำเองก็ได้ หรือหากใครไม่สะดวก ท่านสามารถพาครอบครัวไปเที่ยวและทำกิจกกรรมกันได้ที่ “Melbourne Easter Show 2018”

“Melbourne Easter Show 2018” 

จะจัดขึ้นในวันที่ วันที่ 30 มีนาคม – 2 เมษายน 2018  ที่ Lawson Poole Reserve  ทางใต้ของ Gippsland Highway  Cranbourne เปิดให้บริการ 10.00 – 21.00 น.  โดยท่านสามารถเข้าไปดูกิจกรรมได้ใน http://www.melbourneeastershow.com.au/ นะครัชผม แต่กระผมจะขอพูดถึงกิจกรรมของที่นี่ให้ท่านผู้อ่านได้จิตนาการก่อนที่จะถึงเทศกาลอีสเตอร์นะขอรับ งั้นเราไปเริ่มกันเลยครัช

• Easter Egg Hunt โดยกิจกรรม “ล่าไข่” จะมีตุ๊กตามาสคอต[Mascot] เป็นกระต่ายคอยดูแลเด็กๆ และที่สำคัญจะคอยปลดล็อคไข่พิเศษให้เด็กที่หาเจอด้วย โดยกิจกรรมนี้จะมีการกำหนดอายุเด็กที่จะเข้าร่วมคือ 3-12 ปี โดยจะมีค่าเข้าไปเล่น 10 เหรียญ โดยจะได้รับถุงเก็บไข่อีสเตอร์ 1 ใบ เพื่อเข้าไปเก็บไข่อีสเตอร์ด้านในสวนที่จำลองเอาไว้ โดยมีการการันตีว่า จ่ายค่าเข้า 10 เหรียญ แต่ของที่จะได้กลับไปเกิน 75 เหรียญแน่นอน [อื้อหื้อออ เล่นเอาซะกระผมอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยครัช] หากกลัวคนเยอะสามารถซื้อตั๋วออนไลน์และระบุวันได้นะครัช ซื้อตั๋ว
• Monster Truck  เป็นการแสดงผาดโผนของรถซึ่งมีล้อขนาดใหญ่มาก  ท่านสามารถเข้าไปซื้อสินค้าและถ่ายรูปกับรถได้ โดยการแสดง Monster Truck จะจัดขึ้นแค่เพียงวันเดียวนั้นก็คือวันที่ 2 เมษายน 2018 เวลา 19.00 น. เท่านั้น!!! ใครชอบการแสดงแบบนี้พลาดไม่ได้เลยนะครัช
• Fairy Emma  นางฟ้าผู้มีมนตร์วิเศษ ที่จะทำให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ นั้นหลงใหลในการแสดงของนางฟ้าเอ็มม่าผู้วิเศษ โดยนางฟ้าจะเล่าเรื่องราวต่างๆ พร้อมกับพูดคุยโต้ตอบกับเด็กๆ โดยนางฟ้าจะมาทำการแสดงในวันศุกร์,วันเสาร์ และวันจันทร์เท่านั้น โดยจะแสดงเพียง 2 รอบต่อวันเท่านั้น
• Circus Play ใครที่อยากดูละครสัตว์เชิญทางนี้เลยครัช ที่นี่จะมีการแสดงละครสัตว์ในทุกวัน หากใครอยากดูมานานแล้ววันนี้ความฝันของคุณเป็นแล้วครับผม

• Live Music  สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศในการฟังเพลง ที่นี่เค้าจะดีเจคอยเปิดเพลงให้ท่านได้ผ่อนคลายอารมณ์ ท่านอาจจะซื้อเครื่องดื่มมานั่งจิบเบาๆ และอาหารเบาๆ มานั่งเสพบรรยากาศก็ได้นะครัช และในช่วงเย็นจะมีการแสดงเป็นดนตรีสดโดยใช้วงดนตรีและศิลปินในท้องถิ่นมาทำการแสดงให้ทุกๆท่านได้ฟังกันครัช
• Melbourne Easter Show Carnival  โซนนี้จะเป็นโซนเครื่องเล่นหลากหลายชนิดที่พร้อมจะเสิร์ฟความตื่นเต้น โดยเครื่องเล่นที่นำมาจัดแสดงสามารถเล่นได้ตั้งแต่เด็กถึงวัยรุ่นกันเลยทีเดียว โดยเครื่องเล่นแต่ละชนิดจะมีการจำกัดอายุในการเล่นเพื่อความปลอดภัยนะครัช เครื่องเล่นแต่ละชนิดจะต้องใช้เหรียญ Token ท่านสามารถซื้อได้ภายในงานเลยครัช ราคาอยู่ที่ 2 ดอลล่าร์ จะได้ 1 Token แต่ๆๆๆ ถ้าท่านต้องการจะเล่นท่านสามา รถซื้อToken ทางอินเตอร์เน็ต โดยจะเปิดขายวันที่ 15 มีนาคม 2018 ราคาจะอยู่ 36 ดอลล่าร์ จะได้ถึง 20 Tokens ซึ่งจะถูกกว่าซื้อหน้างานถึง 4 ดอลล่าร์ ยังๆ ยังไม่พอแต่ถ้าคุณจ่าย 89 ดอลล่าร์ คุณจะได้ 50 Tokens ประหยัดไปถึง 11 ดอลล่าร์ และทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนชอบเล่นเครื่องเล่น คุณจ่ายแค่เพียง 178 ดอลล่าร์ คุณจะได้รับ Tokens ถึง 100 Tokens  เลยทีเดียวประหยัดไปถึง 22 ดอลล่าร์เลยครัชผม

นอกจากกิจกรรมดังกล่าวที่กระผมได้กล่าวมาแล้วนั้น เป็นแค่เพียงการเรียกน้ำย่อยเท่านั้น เพราะในงาน Melbourne Easter Show 2018 ยังมีกิจกรรมอย่างอื่นๆ อีก เช่น Amazing Toys, Face Painting, Market Place และ Charater Meet&Greet เป็นต้น  ส่วนในงานนอกจากกิจกรรมแล้วยังมีร้านอาหารนานาชนิดโดยร้านจะเป็นแบบ Food Truck  มาคอยให้บริการแก่ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ใครยังไม่มีโปรแกรมลองดูนะครัชผมเพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับ Holidays

สัญลักษณ์ในวันอีสเตอร์

• ไข่อีสเตอร์ หมายถึง การเริ่มต้นชีวิตใหม่
• ดอกลิตเติ้ลเดซี่ หมายถึง การกลับมาของฤดูใบไม้ผลิ แม้บางแห่งดอกไม้นี้จะออกดอกเกือบทั้งปี แต่เดือนที่มีการเบ่งบานมากที่สุด คือช่วงเดือนมีนาคม – ตุลาคม นอกจากนี้ยังมี ดอกลิลลี่สีขาว ที่มีเชื่อมโยงกับเทศกาลอีสเตอร์เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์
• กระต่าย หมายถึง สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และเปรียบเสมือนผู้ส่งสารของอีสเตอร์ กระต่ายเข้ามาเกี่ยวข้องกับเทศกาลอีสเตอร์นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
• ผีเสื้อ หมายถึง สื่อความหมายถึงชีวิตใหม่ วันหนึ่งดักแด้กลายเป็น ผีเสื้อบินไปเพื่อแจกจ่ายพรไปสู่โลกกว้าง
• เทียนปัสกา (Paschal Candle) เทียนสีขาวขนาดใหญ่ ชาวคริสต์จะเริ่มฉลองเทศกาล ด้วยการจุดเทียนปัสกา เพื่อรำลึกถึงการฟื้นคืนชีพแสงสว่างที่ออกมาจากอุโมงค์ที่มืดมิด

ในเทศกาลอีสเตอร์นั้น ชาวคริสเตียนจะให้ความสำคัญต่อการเข้าโบสถ์เพื่อระลึกถึงพระเยซูในวันที่พระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขนในวันศุกร์ประเสริฐ ในวันต่อมาชาวคริสต์จะไปโบสถ์เพื่อล้างบาปและจุดเทียนปัสกา[Saturday Easter]และขอพรในวันเริ่มต้นใหม่[Sunday Easter] เมื่อเสร็จสิ้นพิธีจากโบสถ์ ส่วนใหญ่ชาวคริสเตียนจะให้ความสำคัญต่อครอบครัว เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว แต่ละครอบครัวจะมีโปรแกรมในแต่ละวันเพื่อสานความสัมพันธ์ให้แน่นยิ่งขึ้น แต่สำหรับเด็กๆแล้ว วันอีสเตอร์สำคัญรองลงมาจากคริสต์มาสเลยครัช เพราะเด็กๆจะได้รับของขวัญจากคนในครอบครัว [น่าอิจฉาจุง อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง!!!] คนไทยในเมลเบิร์นลองไปเที่ยวกันดูนะครัชผม เทศกาลนี้ค่อนข้างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว สำหรับบทความหน้ากระผมจะพาทุกท่านไปเที่ยวที่ไหน ต้องรอติดตามกันดูนะครัช